1.คลื่นวิทยุ
คลื่นวิทยุ มี ความถี่ ช่วง 104 - 109 Hz( เฮิรตซ์ ) ใช้ ใน การสื่อสาร คลื่นวิทยุมีการส่งสัญญาณ 2 ระบบคือ
1.1 ระบบเอเอ็ม (A.M. = amplitude modulation)ระบบเอเอ็ม มีช่วงความถี่ 530 - 1600 kHz( กิโลเฮิรตซ์ ) สื่อสาร โดย ใช้ คลื่นเสียง ผสม เข้า ไปกับคลื่นวิทยุ เรียกว่า "คลื่นพาหะ " โดย แอมพลิจูด ของ คลื่นพาหะ จะ เปลี่ยนแปลง ตาม สัญญาณ คลื่นเสียง
ใน การส่งคลื่น ระบบ A.M. สามารถส่ง คลื่น ได้ ทั้ง คลื่นดิน เป็นคลื่นที่ เคลื่อนที่ ใน แนว เส้นตรง ขนานกับ ผิวโลกและคลื่นฟ้า โดย คลื่น จะ ไป สะท้อนที่ ชั้น บรรยากาศ ไอโอโนสเฟียร์ แล้ว สะท้อนกลับ ลงมา จึง ไม่ ต้อง ใช้ สายอากาศ ตั้ง สูง รับ
1.2 ระบบ เอฟเอ็ม (F.M. = frequency modulation)ระบบเอฟเอ็ม มีช่วงความถี่ 88 - 108 MHz (เมกะเฮิรตซ์) สื่อสาร โดย ใช้ คลื่นเสียง ผสม เข้ากับ คลื่นพาหะ โดยความถี่ ของ คลื่นพาหะ จะ เปลี่ยนแปลง ตาม สัญญาณ คลื่นเสียง
ใน การส่งคลื่น ระบบ F.M. ส่ง คลื่น ได้ เฉพาะ คลื่นดิน อย่างเดียว ถ้า ต้องการ ส่ง ให้ คลุม พื้นที่ ต้อง มี สถานี ถ่ายทอด และเครื่องรับ ต้อง ตั้ง เสาอากาศ สูง ๆ รับ
2.คลื่นโทรทัศน์และไมโครเวฟ
คลื่นโทรทัศน์ และ ไมโครเวฟ มีความถี่ ช่วง 108 - 1012 Hz มี ประโยชน์ ใน การสื่อสาร แต่ จะ ไม่ สะท้อน ที่ ชั้น บรรยากาศ ไอโอโนสเฟียร์ แต่ จะ ทะลุ ผ่าน ชั้น บรรยากาศ ไป นอกโลก ใน การถ่ายทอด สัญญาณ โทรทัศน์ จะ ต้อง มี สถานี ถ่ายทอด เป็น ระยะ ๆ เพราะ สัญญาณ เดินทาง เป็น เส้นตรง และ ผิวโลก มี ความโค้ง ดังนั้น สัญญาณ จึง ไป ได้ ไกลสุด เพียง ประมาณ 80 กิโลเมตร บน ผิวโลก อาจ ใช้ ไมโครเวฟ นำ สัญญาณ จาก สถานีส่ง ไป ยัง ดาวเทียม แล้ว ให้ ดาวเทียม นำ สัญญาณ ส่งต่อ ไป ยัง สถานีรับ ที่ อยู่ ไกล ๆ
เนื่องจาก ไมโครเวฟ จะ สะท้อน กับ ผิวโลหะ ได้ ดี จึง นำ ไป ใช้ ประโยชน์ ใน การตรวจ หา ตำแหน่ง ของ อากาศยาน เรียก อุปกรณ์ ดังกล่าว ว่า เรดาร์ โดย ส่ง สัญญาณ ไมโครเวฟ ออก ไป กระทบ อากาศยาน และ รับ คลื่น ที่ สะท้อนกลับ จาก อากาศยาน ทำ ให้ ทราบ ระยะ ห่าง ระหว่าง อากาศยานกับ แหล่งส่ง สัญญาณ ไมโครเวฟ ได้
คลื่นโทรทัศน์ และ ไมโครเวฟ มีความถี่ ช่วง 108 - 1012 Hz มี ประโยชน์ ใน การสื่อสาร แต่ จะ ไม่ สะท้อน ที่ ชั้น บรรยากาศ ไอโอโนสเฟียร์ แต่ จะ ทะลุ ผ่าน ชั้น บรรยากาศ ไป นอกโลก ใน การถ่ายทอด สัญญาณ โทรทัศน์ จะ ต้อง มี สถานี ถ่ายทอด เป็น ระยะ ๆ เพราะ สัญญาณ เดินทาง เป็น เส้นตรง และ ผิวโลก มี ความโค้ง ดังนั้น สัญญาณ จึง ไป ได้ ไกลสุด เพียง ประมาณ 80 กิโลเมตร บน ผิวโลก อาจ ใช้ ไมโครเวฟ นำ สัญญาณ จาก สถานีส่ง ไป ยัง ดาวเทียม แล้ว ให้ ดาวเทียม นำ สัญญาณ ส่งต่อ ไป ยัง สถานีรับ ที่ อยู่ ไกล ๆ
เนื่องจาก ไมโครเวฟ จะ สะท้อน กับ ผิวโลหะ ได้ ดี จึง นำ ไป ใช้ ประโยชน์ ใน การตรวจ หา ตำแหน่ง ของ อากาศยาน เรียก อุปกรณ์ ดังกล่าว ว่า เรดาร์ โดย ส่ง สัญญาณ ไมโครเวฟ ออก ไป กระทบ อากาศยาน และ รับ คลื่น ที่ สะท้อนกลับ จาก อากาศยาน ทำ ให้ ทราบ ระยะ ห่าง ระหว่าง อากาศยานกับ แหล่งส่ง สัญญาณ ไมโครเวฟ ได้
3.รังสีอินฟาเรด
รังสีอินฟาเรด มีช่วงความถี่ 1011 - 1014 Hz หรือ ความยาวคลื่น ตั้งแต่ 10-3 - 10-6 เมตร ซึ่ง มี ช่วงความถี่ คาบเกี่ยว กับ ไมโครเวฟ รังสีอินฟาเรด สามารถ ใช้กับฟิล์มถ่ายรูป บางชนิด ได้ และ ใช้ เป็น การควบคุม ระยะไกล หรือ รีโมทคอนโทรล กับ เครื่องรับโทรทัศน์ ได้
4.แสง
แสง มีช่วงความถี่ 1014Hz หรือ ความยาวคลื่น 4x10-7 - 7x10-7 เมตร เป็น คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ที่ ประสาทตา ของ มนุษย์ รับ ได้ สเปคตรัม ของ แสง สามารถ แยก ได้ ดังนี้
สี ความยาวคลื่น (nm)
ม่วง 380-450
น้ำเงิน 450-500
เขียว 500-570
เหลือง 570-590
แสด 590-610
แดง 610-760
ม่วง 380-450
น้ำเงิน 450-500
เขียว 500-570
เหลือง 570-590
แสด 590-610
แดง 610-760
5. รังสีอัลตราไวโอเลต
รังสีอัลตราไวโอเลต หรือ รังสีเหนือม่วง มี ความถี่ช่วง 1015 - 1018 Hz เป็น รังสี ตาม ธรรมชาติ ส่วนใหญ่ มา จาก การแผ่รังสี ของ ดวงอาทิตย์ ซึ่ง ทำ ให้ เกิด ประจุ อิสระ และ ไอออน ใน บรรยากาศ ชั้น ไอโอโนสเฟียร์ รังสีอัลตราไวโอเลต สามารถ ทำ ให้ เชื้อโรค บาง ชนิด ตาย ได้ แต่ มี อันตราย ต่อ ผิวหนัง และ ตา คน
6. รังสีเอกซ์
รังสีเอกซ์ มีความถี่ ช่วง 1016 - 1022 Hz มี ความยาวคลื่น ระหว่าง 10-8 - 10-13 เมตร ซึ่ง สามารถ ทะลุ สิ่งกีดขวาง หนา ๆ ได้ หลักการ สร้าง รังสีเอกซ์คือ การเปลี่ยน ความเร็ว ของ อิเล็กตรอน มี ประโยชน์ ทางการแพทย์ ใน การ ตรวจ ดู ความผิดปกติ ของ อวัยวะ ภายใน ร่างกาย ใน วงการ อุตสาหกรรม ใช้ ใน การ ตรวจหา รอยร้าว ภายใน ชิ้นส่วน โลหะ ขนาด ใหญ่ ใช้ ตรวจ หา อาวุธ ปืน หรือ ระเบิด ใน กระเป๋าเดินทาง และ ศึกษา การ จัดเรียงตัว ของ อะตอม ใน ผลึก
7. รังสีแกมมา
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น